เอ็ม บี เค การันตี จัดกิจกรรมงานวิ่งการกุศล 'MBK – G Run III for Sea Turtles 2017' ปลุกกระแสสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและจิตสำนึกการอนุรักษ์เต่าทะเลไทยอย่างยั่งยืน
Back“ประเทศไทยของเราได้ขึ้นชื่อว่ามีการทิ้งขยะลงทะเลติดอันดับ 5 ของโลก โดยปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเล ราวๆ 1 ล้านตัน/ปี แต่หากเทียบเป็นปริมาณขยะที่ทิ้งลงทะเลโดยเฉลี่ยต่อจำนวนประชากรทั้งประเทศ ไทยจะเป็นอันดับหนึ่งที่ทิ้งขยะเฉลี่ยต่อคนสูงที่สุดในโลก ปัญหาขยะในทะเล หากไม่รีบจัดการ หาวิธีรับมือ แก้ไข และยุติปัญหานี้ สุดท้ายแล้วคงเป็นพวกเราเองที่ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากผลพวงของปัญหานี้ได้” ประโยคดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนที่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลและชายฝั่ง พยายามสะท้อนและกระตุ้นสังคมให้ตระหนักถึงวิกฤตการณ์ในท้องทะเลไทยที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่ขณะนี้ ซึ่งขยะในทะเลนั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อมนุษย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเต่าทะเลจนปัจจุบันเข้าสู่ภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แล้ว
ด้วยเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด ธุรกิจการเงินในเครือเอ็ม บี เค กรุ๊ป จึงจัดกิจกรรม "MBK – G Run III for Sea Turtles 2017" กิจกรรมงานวิ่งการกุศลเพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมาปลุกกระแสสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการแยกขยะ เพื่อสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่าทะเลไทยอย่างยั่งยืน
นายศักดิ์ชัย สุทธิพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม บี เค การันตี จำกัด กล่าวว่า "เอ็ม บี เค การันตี ธุรกิจการเงินในเครือเอ็ม บี เค กรุ๊ป ที่ให้บริการสินเชื่อทั่วไป พร้อมด้วยสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ และสินเชื่อระยะสั้นสำหรับวงเงินประเภท Bridging Loan ยังคงมุ่งมั่นที่จะสานต่อการตอบแทนประโยชน์คืนสู่สังคมในแง่มุมต่างๆ ผ่านกิจกรรมวิ่งการกุศลที่จัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้ชื่อ 'MBK – G Run III for Sea Turtles 2017' เพราะตระหนักถึงจำนวนเต่าทะเลที่ลดลงอย่างรวดเร็วจนจัดเป็นสัตว์อนุรักษ์ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งมีสาเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากปัญหาขยะในทะเล ปัญหาสำคัญซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งสอดคล้องกับ โครงการ Real Recycler รักษ์โลกจริง เลิกทิ้ง เลิกเท ที่จุดประกายสังคมให้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะและการนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจัดขึ้นโดยบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เมื่อปลายปีที่ผ่าน"
"เอ็ม บี เค การันตี จะนำรายได้ทั้งหมดจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มาใช้ในการปลุกกระแสสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เต่าทะเลไทยอย่างยั่งยืน โดยการผลิตสื่อวิดีทัศน์ประชาสัมพันธ์เรื่องราวของเต่าทะเลไทย เพื่อสื่อสารสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตเต่าทะเลให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยนำไปเผยแพร่ในหน่วยงานสำคัญในการอนุรักษ์เต่าทะเลต่างๆ อาทิ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ต และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ จังหวัดชลบุรี รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนตั้งต้นในการผลิตของที่ระลึกที่ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่หน่วยงานอนุรักษ์เต่าทะเลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง" นายศักดิ์ชัย กล่าวเพิ่มเติม
ขณะที่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า "เต่าทะเล เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศที่เอื้อประโยชน์แก่มนุษย์โดยตรง เนื่องจากอาหารหลักของเต่าทะเลนั้นคือสาหร่าย หญ้าทะเล และแมงกะพรุน ซึ่งอย่างหลังนั้นมีพิษร้ายแรงที่ทำอันตรายแก่มนุษย์ตั้งแต่การบาดเจ็บไปจนถึงการเสียชีวิต เต่าทะเลจึงทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมทางระบบนิเวศ ที่คอยควบคุมปริมาณแมงกะพรุน ดังนั้นจำนวนเต่าทะเลจึงมีความสัมพันธ์กับจำนวนแมงกะพรุนโดยตรง ขณะนี้จำนวนเต่าทะเลในท้องทะเลไทยลดลงอย่างน่าใจหาย ด้วยสาเหตุจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาแพขยะในทะเล ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเพราะความมักง่ายของเรา แต่เต่าทะเลกลับกลายต้องเป็นผู้รับเคราะห์นี้ไปโดยปริยาย ด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างอาหารกับบรรดาขยะที่ลอยอยู่ในทะเลได้ ทำให้เต่าทะเลกินขยะเหล่านี้เข้าไป ท้ายที่สุดเต่าทะเลก็ตายเพราะไม่สามารถย่อยและขับถ่ายขยะออกมาจากร่างกายได้ ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาขยะในทะเล ไม่ได้เพียงแค่สร้างผลเสียต่อเต่าทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ ที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน"
ด้าน นายหิรัญ กังแฮ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า "ขยะทะเล อาทิ พลาสติก และซากอวนเก่า ถือเป็นขยะที่ทำให้เต่าทะเลเสียชีวิตอันดับต้นๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของเต่าทะเลอีกด้วย อาทิ การสัญจรที่หนาแน่นของเรือน้อยใหญ่จำนวนมากในน่านน้ำของไทย การทำประมงลากอวน ที่ทำให้เต่าทะเลได้รับบาดเจ็บและตาย รวมถึงการบุกรุกพื้นที่และทำลายระบบนิเวศทางธรรมชาติที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของเต่าทะเล อาทิ บริเวณชายหาดซึ่งเป็นสถานที่วางไข่ของเต่าทะเลและในทะเลซึ่งเป็นอยู่อาศัยและแหล่งอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้จำนวนเต่าทะเลที่เติบโต รอดชีวิต และกลับมาวางไข่ที่ชายหาดทะเลไทยนับวันจะลดน้อยลงไปทุกที"
"ประเทศไทยใช้งบประมาณในการอนุรักษ์เต่าทะเลถึง 1 ล้านบาทต่อปี โดยหน่วยงานต่างๆ ที่ทำหน้าที่ในการอนุรักษ์เต่าทะเลจะใช้งบประมาณนี้ไปกับการเลี้ยงดูเต่าทะเลที่พิการและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเต่าทะเลตามธรรมชาติที่ขึ้นมาเกยตื้น รวมทั้งการใช้งบประมาณสำหรับการเพาะพันธุ์และอนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การสร้างจิตสำนึกและการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเต่าทะเลให้แก่ประชาชนย่อมเป็นทางออกที่ดีกว่าการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ" นายหิรัญ กล่าวเสริม
'MBK – G Run III for Sea Turtles 2017' นอกจากจะประกอบด้วยการแข่งขันวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตรแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรมโชว์กระติกรับกระเป๋า ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้นักวิ่งนำกระติกน้ำดื่มมาใช้ในการวิ่ง ทดแทนการแจกขวดน้ำดื่มซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและการใช้พลาสติกภายในงาน รวมทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจและปลุกจิตสำนึกการอนุรักษ์เต่าทะเลและการแยกขยะ โดยมี นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี กล่าวเปิดงานและต้อนรับนักวิ่งทุกคนเข้าสู่การแข่งขัน และมีนักแสดงชื่อดังให้ความสนใจเข้าร่วมงาน อาทิ แพนเค้ก - เขมนิจ จามิกรณ์ และปุ๊กลุก - ฝนทิพย์ วัชรตระกูล อีกด้วยี
นอกจากการร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์เต่าทะเลในกิจกรรม ‘MBK – G Run III for Sea Turtles 2017’ ที่ผ่านไปแล้ว บุคคลทั่วไปยังสามารถร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์เต่าทะเลได้ เพียงอุดหนุนสินค้าที่ระลึก ‘ตุ๊กตาเต่าน้องการันต์’ ที่ทาง เอ็ม บี เค การันตีออกแบบได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ต และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ จังหวัดชลบุรี