ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว โรงแรมในเครือเอ็ม บี เค 7 แห่ง พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว
Backในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2567 ยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยแตะเกือบ 10 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 1.49 ล้านคน เพิ่มขึ้น 40.98% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยกระตุ้น เช่น มาตรการ Ease of Traveling เช่น Visa Free และการยกเลิกบัตร ตม.6 รวมถึงการจัดกิจกรรมสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ
นางสาวอาทร วนาสันตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว บริษัท เอ็ม บี เค โฮเต็ล แอนด์ ทัวร์ริซึ่ม จำกัด กล่าวว่า โรงแรมในเครือ เอ็ม บี เค ทั้งหมด 7 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ภูเก็ต และกระบี่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงเวลาต่อจากนี้ โดยถึงแม้จะยังมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง รัสเซีย และยูเครน แต่คาดการณ์ว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของทั้งปี 2567 น่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเบื้องต้นที่ 35 ล้านคน ซึ่งจะเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 30% ซึ่งโรงแรมในเครือเอ็ม บี เค มีความพร้อมและศักยภาพที่จะรองรับและให้บริการ โดยในแง่ของอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยของทุกโรงแรมในเครือ เอ็ม บี เค ตลอดทั้งในปี 2566 อยู่ที่ 72.9% และคาดว่าในปี 2567 จะมีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 77%
ทั้งนี้ โรงแรมต่าง ๆ ในเครือ เอ็ม บี เค มีการปรับปรุงและเตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับและให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท ได้มีการปรับปรุงสระว่ายน้ำให้มีความสะดวกสบายขึ้น เพิ่มการให้บริการของแพ็คเกจเพื่อสุขภาพแบบ wellness เช่นเดียวกับ โรงแรม ลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่มีการปรับปรุงห้อง Beach Villa เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เป็น Returning Guests ซึ่งเข้าพักครั้งละนาน ๆ โดยมุ่งเน้นการใช้งานที่สะดวกสบายและอบอุ่นมากขึ้น โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ก็เป็นอีกหนึ่งโรงแรมในเครือที่มีการปรับปรุงห้อง Execuplus Suite จำนวน 32 ห้องจาก 80 ห้อง โดยมุ่งเน้นตามความต้องการของผู้เข้าพักในเรื่องของความสวยงาม ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวก และมีการเพิ่มประเภท ห้องพักตามความต้องการของลูกค้า ได้แก่ ห้องพักแบบสองห้องนอนเพื่อรองรับนักเดินทางกลุ่มครอบครัว ส่วนโรงแรมในกลุ่มทินิดี ประกอบด้วย ทินิดี กอล์ฟ รีสอร์ท ภูเก็ต และ ทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ ซึ่งเป็นโรงแรมในสนามกอล์ฟ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักกอล์ฟและกลุ่มลูกค้าประชุม สัมมนาเป็นหลัก
ส่วนโรงแรมที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้แก่ ทินิดี ไฮด์อเวย์ ต้นไทร บีช กระบี่ ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สาเหตุที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเนื่องจากที่ตั้งของโรงแรมอยู่บนหาดส่วนตัวของหาดต้นไทร ส่วนด้านหลังโรงแรมมีภูเขาเป็นฉากหลังตลอดแนวห้องพัก ประกอบกับกิจกรรมต่าง ๆ อาทิเช่น ปีนหน้าผา เดินป่า สำรวจถ้ำ พายเรือคายัค ที่ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกแตกต่างและได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมทั้งผู้เข้าพักทุกท่านจะได้รูปภาพที่สวยงามของการทำกิจกรรมกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกอีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2566 เอ็ม บี เค ได้เปิดให้บริการโรงแรมน้องใหม่ล่าสุด ทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร ตั้งอยู่บนถนนรามบุตรี ติดกับถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้บริการห้องพัก 215 ห้อง เน้นกลุ่มลูกค้าหลักทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น อิสราเอล เกาหลี และเยอรมัน เป็นต้น เนื่องจากโรงแรมตั้งอยู่ใกล้วัด วัง และพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน จึงสามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี
นางสาวอาทร กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีความมั่นใจในศักยภาพของโรงแรมในเครือ เอ็ม บี เค ในการรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งในแง่ของการให้บริการ ความพร้อมของสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้บริการและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โรงแรมทั้ง 7 แห่งในเครือ เอ็ม บี เค ใช้นโยบาย MBK YES คือ ทันสมัย น่าเชื่อถือเป็นคำตอบที่หลากหลาย ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เข้าถึงง่าย และมีสไตล์ที่โดดเด่น ในการให้บริการลูกค้า ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก สามารถพิสูจน์ได้จากหลากหลายรางวัลที่ได้รับพร้อมกับการกลับมาใช้บริการซ้ำอีก”